I love this article;
So copy here:
Think that it already passed the time of Critics
So copy it here cannot change other decision.
‘นักการเมือง’ คนเลวที่คุณเลือกได้
วิทยากร บุญเรือง
23 ธันวาคม 2550…
เป็นอีกวาระหนึ่งที่เราจะต้องออกไปช่วยเพื่อนรัก ‘นักการเมือง' (กลุ่มคนที่ถูกประณามมากที่สุดในสังคมไทยปัจจุบัน)
สื่อต่างๆ ชอบที่จะกระแซะแซวว่า นักการเมืองมักจะมืออ่อนนอบน้อมกราบไหว้ประชาชนเสมอในช่วงเลือกตั้ง ซึ่งมันก็ถูก แต่ถ้ามองในมุมกลับกัน คนอีกบางจำพวกนั้น ‘ไม่มี' ช่วงเวลาพิเศษไหนเลยที่จะลงมาไหว้กราบกรานขอคะแนนจากประชาชน หนำซ้ำพวกเรากลับต้องกราบกรานไหว้เขาอยู่เป็นกิจวัตร
ใครล่ะน่าเกลียดกว่ากัน?
สำหรับวาระสำคัญก่อนการเลือกตั้ง การรณรงค์ไม่ให้มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ทำนองที่ว่า ‘นักการเมืองซื้อเสียงเราไม่กี่ร้อย แล้วก็ไปโกงบ้านเมืองเป็นแสนเท่าล้านเท่า' ยังคงเป็นการรณรงค์ที่ตื้นเขิน
เพราะถ้าลองมองในเชิงโครงสร้างแบบนั้น ‘นักการเมืองซื้อเสียง' กับ ‘ชาวบ้านที่ขายเสียง' ดูเหมือนจะกลายเป็นแพะอยู่แค่สองจำพวกนี้เท่านั้น แต่แท้จริงแล้ว การทุจริตนั้นไม่ได้มีตัวจักรสำคัญแค่ชาวบ้านและนักการเมือง เพราะในกลไกนั้นจะต้องประกอบไปด้วย ข้าราชการและผู้มีอิทธิพลในสังคมไทยที่ไม่ต้องลงเลือกตั้งเป็นตัวสำคัญอีกกลุ่มหนึ่ง แต่คนกลุ่มหลังกลับไม่ค่อยมีใครกล่าวถึง ทั้งที่คนเหล่านี้ต่างหากที่เป็นกลุ่ม ‘คนสำคัญ' จริงๆ สำหรับการทำให้ประเทศชาติและประชาธิปไตยเสียหาย
การตรวจสอบนักการเมืองและการเข้าไปมีผลประโยชน์ในโครงการต่างๆ นั้น ข้าราชการ องค์กรอิสระ และผู้มีอิทธิพลในสังคม มีบทบาทมากเสียกว่าชาวบ้านที่ขายเสียง ซึ่งเรารู้ๆ กันอยู่ว่าคนเหล่านี้มีล็อบบี้ยิสต์เป็นของตนเอง ไม่ต้องออกหน้าออกตามาให้เสียภาพพจน์แบบนักการเมือง
ผู้มีอิทธิพลในสังคมมักจะฉาบตนเองด้วย ‘จริยธรรมอันเลิศหรู' แต่เนื้อแท้แล้วพวกเขาเป็นกาฝากของสังคม ทำตัวเป็น ‘ขอทานกิตติมศักดิ์'
ลองไปดูกันเถิดท่านทั้งหลาย บอร์ดรัฐวิสาหกิจต่างๆ หรือที่ปรึกษาบรรษัทยักษ์ใหญ่ หรือโครงการการกุศลต่างๆ มีขอทานกิตติมศักดิ์พวกนี้คอยเกาะกินมากน้อยแค่ไหน
แต่คนกลุ่มเหล่านี้กลับมาด่าการซื้อสิทธิ์ขายเสียงของนักการเมืองและชาวบ้านอยู่เนืองๆ ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ดีโด่ดีเด่อะไรไปมากนัก หนำซ้ำยังน่าเกลียดถึงกึ๋นกว่า ด้วยการพยายามทำตัวให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ดุจดังเทวดามาจุติ
นักการเมืองเป็นกลุ่มคนสปีชี่ส์ที่บริหารความ ‘น่ารักน่าชัง' ของตนเองได้อย่างลงตัว…เพราะมีทั้ง ปากห้อย, ปากหมา, ตัวเตี้ย, เป็นปลาไหล, เป็นงูเห่า, จ่ายเงินร้อยยี่สิบ, โกงกินสารพัด ฯลฯ ในทางกลับกัน พวกเขายังพอจะรู้จักช่วยเหลือปัญหาเฉพาะหน้าให้กับชาวบ้าน เอาถนน เอาโครงการต่างๆ เข้าสู่ท้องถิ่น ช่วยเหลืองานบุญงานบาปต่างๆ นานา เพื่อหาคะแนนนิยมให้ตัวเอง — พวกเขามีบุคลิกที่เป็น ‘คนจริงๆ'บนโลกใบที่บูดๆ เบี้ยวๆ บ้าๆ ซึ่งเป็นโลกแห่งความเป็นจริงใบนี้
ในระบอบประชาธิปไตยต้องการคนจริงๆ ที่รู้จัก ‘โหด เลว ดี' มากกว่า ‘เทวดา' ที่รอแต่เครื่องเซ่นสรวงฟรีๆ โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อเสียง
หลังรัฐประหารที่ผ่านมา เทวดาเหล่านี้กลับได้ใจผยองลำพอง ออกมาเพ่นพ่านตามบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ตามองค์กรเฉพาะกิจต่างๆ ที่อ้างว่าจะมาสะสางและล้างความสกปรกของประเทศ รวมถึงชอบเหลือเกินที่จะมาอวดภูมิความรู้และชูจริยธรรมของตนเอง ชี้นิ้วชี้นำสังคมว่าจงโปรดฟังพวกเขา ช่วยกันกำจัดนักการเมืองที่เลวร้ายและโปรดจงทำตัวให้ใสสะอาดเปรียบดังเทวดาอย่างเขา
จะอย่างไรก็แล้วแต่ นักการเมืองจะยังคงเป็นที่พึ่งและคนที่เราเลือกได้เสมอ ในโลกแห่งความเป็นจริง โดยเฉพาะในสังคมที่เป็นประชาธิปไตย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะถูกตราหน้าว่าชั่วช้าเพียงใด แต่พวกเขาก็เปรียบเสมือนคนเลวที่เราๆ ท่านๆ เลือกได้ และมักจะมีอะไรติดไม้ติดมือมาฝากพวกเราเสมอ
ไม่เหมือนคนดีมีจริยธรรมและเทวดาต่างๆ ที่เรามักจะเลือกไม่ได้ เผลอๆ ก็โผล่พรวดมาทำลายระบบประชาธิปไตยพร้อมด้วยรถถัง
ถ้าพวกคุณหมั่นไส้เหล่าเทวดาเหล่านี้…
ไปเถิด คนเดินดินกินข้าวแกงทั้งหลาย…
ถ้าคุณรับเงินจากนักการเมืองและจะไปลงคะแนนให้เขาชนะการเลือกตั้ง จงไปเลือกคนที่คุณคิดว่าคุณสามารถแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ได้มากที่สุด!