Thai Nation Liberty Day Memorial

in the occasion of Thai Nation Liberty Day Memorial; this may the good one to read.

ประกาศคณะราษฎร ฉบับ​ที่

ราษฎร​ทั้ง​หลาย

เมื่อกษัตริย์องค์นี้​ได้​ครองราชย์สมบัติสืบต่อ​จาก​พระ​เชษฐา​นั้น ใน​ชั้นต้นราษฎรบางคน​ได้​หวัง​กัน​ว่ากษัตริย์องค์​ใหม่​นี้​จะ​ปกครองราษฎร​ให้​ร่มเย็น แต่การณ์ก็หา​ได้​เป็น​ไปตามที่คิดหวัง​กัน​ไม่ กษัตริย์คงทรงอำ​นาจ​อยู่​เหนือกฎหมายเดิม ทรงแต่งตั้งญาติวงศ์​และ​คนสอพลอไร้คุณ​ความ​รู้​ให้​ดำ​รงตำ​แหน่งที่สำ​คัญๆ ไม่​ทรงฟังเสียงราษฎร ปล่อย​ให้​ข้าราชการ​ใช้​อำ​นาจหน้าที่​ใน​ทางทุจริต มีการรับสินบน​ใน​การก่อสร้าง​และ​การซื้อของ​ใช้​ใน​ราชการ หากำ​ไร​ใน​การเปลี่ยนเงิน​ ผลาญเงินของประ​เทศ ยกพวกเจ้าขึ้น​ให้​สิทธิพิ​เศษมากกว่าราษฎร กดขี่ข่มเหงราษฎร ปกครอง​โดย​ขาดหลักวิชา ปล่อย​ให้​บ้านเมือง​เป็น​ไปตามยถากรรม ดังที่​จะ​เห็น​ได้​จาก​ความ​ตกต่ำ​ใน​ทางเศรษฐกิจ​และ​ความ​ฝืดเคือง​ใน​การทำ​มาหากิน​ซึ่ง​พวกราษฎร​ได้​รู้​กัน​อยู่​โดย​ทั่ว​ไป​แล้ว รัฐบาลของกษัตริย์​เหนือกฎหมายมิ​สามารถ​แก้​ไข​ให้​ฟื้นขึ้น​ได้

การที่​แก้​ไข​ไม่​ได้​ก็​เพราะ​รัฐบาลของกษัตริย์มิ​ได้​ปกครองประ​เทศเพื่อราษฎรตามที่รัฐบาล​อื่นๆ ได้​กระทำ​กัน รัฐบาลของกษัตริย์​ได้​ถือเอาราษฎร​เป็น​ทาส (​ซึ่ง​เรียกว่า​ไพร่บ้าง ข้าบ้าง) เป็น​สัตว์​เดียรัจฉาน ไม่​นึกว่า​เป็น​มนุษย์ เหตุฉะ​นั้น แทนที่​จะ​ช่วย​ราษฎร กลับพา​กัน​ทำ​นาบนหลังราษฎร จะ​เห็น​ได้​ว่า ภาษีอากรที่บีบคั้นเอา​จาก​ราษฎร​นั้น​ กษัตริย์​ได้​หักเอา​ไว้​ใช้​ปีหนึ่ง​เป็น​จำ​นวนหลายล้าน ส่วน​ราษฎรสิ กว่า​จะ​หา​ได้​แม้​แต่​เล็ก​น้อย เลือดตา​แทบกระ​เด็น ถึง​คราวเสียเงินราชการ​หรือ​ภาษี​ใดๆ ถ้า​ไม่​มี​เงินรัฐบาลก็ยึดทรัพย์​หรือ​ใช้​งานโยธา แต่พวกเจ้ากลับนอนกิน​กัน​เป็น​สุข ไม่​มีประ​เทศ​ใด​ใน​โลก​จะ​ให้​เงินเจ้ามากเช่นนี้ นอก​จาก​พระ​เจ้าซาร์​และ​พระ​เจ้า​ไกเซอร์​เยอรมัน ซึ่ง​ชนชาติ​นั้น​ก็​ได้​โค่นราชบัลลังก์ลงเสีย​แล้ว

รัฐบาลของกษัตริย์​ได้​ปกครองอย่างหลอกลวง​ไม่​ซื่อตรงต่อราษฎร มี​เป็น​ต้นว่าหลอกว่า​จะ​บำ​รุงการทำ​มาหากินอย่างโน้นอย่างนี้​ แต่ครั้นคอยๆ ก็​เหลวไป หา​ได้​ทำ​จริงจัง​ไม่ มิหนำ​ซ้ำ​กล่าวหมิ่นประมาทราษฎร​ผู้​มีบุญคุณเสียภาษีอากร​ให้​พวกเจ้า​ได้​กิน ว่าราษฎร​ยัง​มี​เสียงทางการเมือง​ไม่​ได้ เพราะ​ราษฎรโง่ คำ​พูดของรัฐบาลเช่นนี้​ใช้​ไม่​ได้ ถ้า​ราษฎรโง่ เจ้าก็​โง่​เพราะ​เป็น​คนชาติ​เดียว​กัน ที่ราษฎรรู้​ไม่​ถึง​เจ้า​นั้น​เป็น​เพราะ​ขาดการศึกษาที่พวกเจ้าปกปิด​ไว้​ไม่​ให้​เรียนเต็มที่ เพราะ​เกรงว่า​เมื่อราษฎร​ได้​มีการศึกษา ก็​จะ​รู้​ความ​ชั่วร้ายที่พวกเจ้าทำ​ไว้ และ​คง​จะ​ไม่​ยอม​ให้​เจ้าทำ​นาบนหลังคนอีกต่อไป

ราษฎร​ทั้ง​หลายพึงรู้​เถิดว่า ประ​เทศเรานี้​เป็น​ของราษฎร ไม่​ใช่​ของกษัตริย์ตามที่​เขา​หลอกลวง บรรพบุรุษของราษฎร​เป็น​ผู้​ช่วย​กัน​กู้​ให้​ประ​เทศ​เป็น​อิสรภาพพ้นมือ​จาก​ข้าศึก พวกเจ้ามี​แต่ชุบมือเปิบ​และ​กวาดทรัพย์สมบัติ​เข้า​ไว้​ตั้งหลายร้อยล้าน เงินเหล่านี้​เอามา​จาก​ไหน​? ก็​เอามา​จาก​ราษฎร​เพราะ​วิธีทำ​นาบนหลังคน​นั้น​เอง บ้านเมืองกำ​ลังอัตคัดฝืดเคือง ชาวนา​และ​พ่อแม่ทหาร​ต้อง​ทิ้งนา เพราะ​ทำ​นา​ไม่​ได้​ผล รัฐบาล​ไม่​บำ​รุง รัฐบาลไล่คนงานออกอย่างเกลื่อนกลาด นักเรียนที่​เรียนสำ​เร็จ​แล้ว​และ​ทหารที่ปลดกองหนุน​แล้ว​ก็​ไม่​มีงานทำ จะ​ต้อง​อดอยากไปตามยถากรรม เหล่านี้​เป็น​ผลของกษัตริย์​เหนือกฎหมาย บีบคั้นข้าราชการชั้น​ผู้​น้อย นายสิบ และ​เสมียน เมื่อ​ให้​ออก​จาก​งาน​แล้ว​ก็​ไม่​ให้​เบี้ยบำ​นาญ ความ​จริงควรเอา​เงินที่พวกเจ้ากวาดรวบรวม​ไว้​มาจัดบำ​รุงบ้านเมือง​ให้​คนมีงานทำ จึง​จะ​สมควรที่สนองคุณราษฎร​ซึ่ง​ได้​เสียภาษีอากร​ให้​พวกเจ้า​ได้​ร่ำ​รวยมานาน​ แต่พวกเจ้าก็หา​ได้​ทำ​อย่าง​ใด​ไม่ คงสูบเลือด​กัน​เรื่อยไป เงินเหลือ​เท่า​ไหร่ก็​เอา​ไปฝากต่างประ​เทศ คอยเตรียมหนี​เมื่อบ้านเมืองทรุดโทรม ปล่อย​ให้​ราษฎรอดอยาก การเหล่านี้ย่อมชั่วร้าย

เหตุฉะ​นั้น ราษฎร ข้าราชการ ทหาร และ​พลเรือน ที่รู้​เท่า​ถึง​การกระทำ​อันชั่วร้ายของรัฐบาลดังกล่าว​แล้ว จึง​รวมกำ​ลังตั้ง​เป็น​คณะราษฎรขึ้น และ​ได้​ยึดอำ​นาจของกษัตริย์​ไว้​ได้​แล้ว คณะราษฎรเห็นว่าการที่​จะ​แก้​ความ​ชั่วร้ายนี้​ได้​ก็​โดย​ที่​จะ​ต้อง​จัดการปกครอง​โดย​มีสภา จะ​ได้​ช่วย​กัน​ปรึกษาหารือหลายๆ ความ​คิดดีกว่า​ความ​คิดเดียว ส่วน​ผู้​เป็น​ประมุขของประ​เทศ​นั้น คณะราษฎร​ไม่​ประสงค์ทำ​การแย่งชิงราชสมบัติ ฉะ​นั้น จึง​ได้​อัญเชิญ​ให้​กษัตริย์องค์นี้ดำ​รงตำ​แหน่งกษัตริย์ต่อไป แต่​จะ​ต้อง​อยู่​ใต้​กฎหมายธรรมนูญการปกครองแผ่นดิน จะ​ทำ​อะ​ไร​โดย​ลำ​พัง​ไม่​ได้ นอก​จาก​ด้วย​ความ​เห็นชอบของสภา​ผู้​แทนราษฎร คณะราษฎร​ได้​แจ้ง​ความ​ประสงค์นี้​ให้​กษัตริย์ทราบ​แล้ว เวลานี้​ยัง​อยู่​ใน​ความ​รับตอบ ถ้า​กษัตริย์ตอบปฏิ​เสธ​หรือ​ไม่​ตอบภาย​ใน​กำ​หนด​โดย​เห็นแก่​ส่วน​ตนว่า​จะ​ถูกลดอำ​นาจลงมาก็​จะ​ชื่อว่าทรยศต่อชาติ​ และ​ก็​เป็น​การจำ​เป็น​ที่ประ​เทศ​จะ​ต้อง​มีการปกครองแบบอย่างประชาธิปไตย กล่าวคือ ประมุขของประ​เทศ​จะ​เป็น​บุคคลสามัญ​ซึ่ง​สภา​ผู้​แทนราษฎร​ได้​เลือกตั้งขึ้น อยู่​ใน​ตำ​แหน่งตามกำ​หนดเวลา ตามวิธีนี้ราษฎรพึงหวังเถิดว่าราษฎร​จะ​ได้​รับ​ความ​บำ​รุงอย่างดีที่สุด ทุกๆ คน​จะ​มีงานทำ เพราะ​ประ​เทศของเรา​เป็น​ประ​เทศที่อุดม​อยู่​แล้ว​ตามสภาพ เมื่อเรา​ได้​ยึดเงินที่พวกเจ้ารวบรวม​ไว้​จาก​การทำ​นาบนหลังคนตั้งหลายร้อยล้านมาบำ​รุงประ​เทศขึ้น​แล้ว ประ​เทศ​จะ​ต้อง​เฟื่องฟูขึ้น​เป็น​แม่นมั่น การปกครอง​ซึ่ง​คณะราษฎร​จะ​พึงกระทำ​ก็คือ จำ​ต้อง​วางโครงการอาศัยหลักวิชา ไม่​ทำ​ไปเหมือนคนตาบอด เช่นรัฐบาลที่มีกษัตริย์​เหนือกฎหมายทำ​มา​แล้ว เป็น​หลัก​ใหญ่ๆ ที่คณะราษฎรวาง​ไว้ มี​อยู่​ว่า

๑.​จะ​ต้อง​รักษา​ความ​เป็น​เอกราช​ทั้ง​หลาย เช่นเอกราช​ใน​ทางการเมือง ใน​ทางศาล ใน​ทางเศรษฐกิจ ฯลฯ ของประ​เทศ​ไว้​ให้​มั่นคง

๒.​จะ​ต้อง​รักษา​ความ​ปลอดภัยภาย​ใน​ประ​เทศ ให้​การประทุษร้ายต่อ​กัน​ลดน้อยลง​ให้​มาก

๓.​ต้อง​บำ​รุง​ความ​สุขสมบูรณ์ของราษฎร​ใน​ทางเศรษฐกิจ โดย​รัฐบาล​ใหม่​จะ​จัดหางาน​ให้​ราษฎรทุกคนทำ จะ​วางโครงการเศรษฐกิจแห่งชาติ ไม่​ปล่อย​ให้​ราษฎรอดอยาก

๔.​จะ​ต้อง​ให้​ราษฎรมีสิทธิ​เสมอภาค​กัน (​ไม่​ใช่​พวกเจ้ามีสิทธิยิ่งกว่าราษฎรเช่นที่​เป็น​อยู่​ใน​เวลานี้)

๕.​จะ​ต้อง​ให้​ราษฎร​ได้​มี​เสรีภาพ มี​ความ​เป็น​อิสระ​ เมื่อเสรีภาพนี้​ไม่​ขัดต่อหลัก ประการดังกล่าวข้างต้น

๖.​จะ​ต้อง​ให้​การศึกษาอย่างเต็มที่​แก่ราษฎร

ราษฎร​ทั้ง​หลายจงพร้อมใจ​กัน​ช่วย​คณะราษฎร​ให้​ทำ​กิจอัน​จะ​คง​อยู่​ชั่วดินฟ้านี้​ให้​สำ​เร็จ คณะราษฎรขอ​ให้​ทุกคนที่มิ​ได้​ร่วมมือ​เข้า​ยึดอำ​นาจ​จาก​รัฐบาลกษัตริย์​เหนือกฎหมายพึงตั้งตน​อยู่​ใน​ความ​สงบ​และ​ตั้งหน้าทำ​มาหากิน อย่าทำ​การ​ใดๆ​ อัน​เป็น​การขัดขวางต่อคณะราษฎร การที่ราษฎร​ช่วย​คณะราษฎรนี้ เท่า​กับ​ราษฎร​ช่วย​ประ​เทศ​และ​ช่วย​ตัวราษฎร บุตร หลาน เหลน ของตนเอง​ ​ประ​เทศ​จะ​มี​ความ​เป็น​เอกราชอย่างพร้อมบริบูรณ์ ราษฎร​จะ​ได้​รับ​ความ​ปลอดภัย ทุกคน​จะ​ต้อง​มีงานทำ​ไม่​ต้อง​อดตาย ทุกคน​จะ​มีสิทธิ​เสมอ​กัน และ​มี​เสรีภาพพ้น​จาก​การ​เป็น​ไพร่ เป็น​ข้า เป็น​ทาสพวกเจ้า หมดสมัยที่​เจ้า​จะ​ทำ​นาบนหลังราษฎร สิ่งที่ทุกคนพึงปรารถนาคือ ความ​สุข​ความ​เจริญอย่างประ​เสริฐ​ซึ่ง​เรียก​เป็น​ศัพท์ว่า ศรีอาริยะ นั้น ก็​จะ​พึงบังเกิดขึ้นแก่ราษฎรถ้วนหน้า

คณะราษฎร

๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕